ป้องกัน COVID-19 ภายใต้หน้ากากผู้หญิงก็ต้องสวยออร่าทะลุ เช็คผิวให้มั่น ดูแลผิวให้สุด    

เรื่อง : ธนุชภางค์

หลายเดือนมานี้ ถ้ามองในมุมคนชอบตามซุปตาร์ชอบดูซีรี่ย์เกาหลีล่ะก็ คุณอาจจะแอบคิดในใจไปได้ว่าทำไมทุกคนพร้อมใจใส่หน้ากากอนามัย แลดูคล้ายพยายามปลอมตัวอยู่หรือไม่ แต่ในโลกแห่งความจริงนั้นหาใช่ไหม!!! ในเวลานี้พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 เชื้อไวรัสที่ทำให้คนทั้งโลกหันมาสนใจเกาะติดข่าวสาร ร่วมด้วยช่วยกันดูแลทั้งตัวเองและมีจิตสำนึกต่อสังคมรอบตัว

นพ. บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัยได้กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์การโรคประจำวันว่า ‘หน้ากากผ้า’ เป็นทางเลือกของคนไม่ป่วยที่จะไปใน ‘พื้นที่แออัด’ โดยหน้ากากผ้ามีประสิทธิภาพ 54-59% ซึ่ง “เพียงพอสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าไปในที่ชุมชน” จึงแนะนำให้คนทั่วไปมีหน้ากากผ้าไว้ใช้คนละ 3 ชิ้น คือ สวม สำรอง ซัก เพื่อแก้ไขปัญหาหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ขาดแคลน

Cr: REUTERS/Kim Hong-Ji

ส่วน นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่า ช่องว่างระหว่างเส้นใยของหน้ากากผ้าซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน สามารถกรองละอองฝอยจากการไอจามได้ แต่เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของหน้ากากผ้ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะทดสอบว่าผ้าชนิดใดที่มีคุณสมบัติเหมาะสมใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. การกรองอนุภาคขนาดใหญ่ (3 ไมครอน) 2. การกรองอนุภาคขนาดเล็ก เช่น เชื้อโรค(0.1 ไมครอน) และ 3. การกันน้ำ

ใครที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยบ้าง?

1.ผู้ที่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยควรมีหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ใช้อย่างเพียงพอ

2.กลุ่มที่ควรสวมหน้ากากอนามัย ได้แก่ ผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาดในระหว่างที่ต้องสังเกตอาการ 14 วัน, บุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยใกล้ชิด และผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง เช่น พนักงานขับรถสาธารณะ หรือผู้ที่ต้องเข้าไปในพื้นที่แออัด

3.ผู้ใช้หน้ากากอนามัยควรสวมและถอดหน้ากากอย่างถูกวิธีร่วมกับการล้างมือบ่อยๆ ด้วย

ส่วนผู้ที่ไม่สามารถหาหน้ากากอนามัยใช้ได้ก็ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีคนแออัดหรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก หากจำเป็นควรเว้นระยะห่างจากผู้อื่นประมาณ 1-2 เมตร และล้างมือให้บ่อยครั้งเช่นกัน

สำหรับหน้ากากผ้า ถ้าหากจำเป็นต้องใส่ (สวมแทนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ในกรณีที่ต้องเข้าไปในพื้นที่แออัด) ควรเปลี่ยนหน้ากากเมื่อรู้สึกชื้น และทำความสะอาดหน้ากากทุกวัน

กล่าวเกริ่นถึงเรื่องหน้ากากกันไปพอสมควร เพื่อใช้เป็นอีกช่องทางในการช่วยเผยแพร่ข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้รู้ไปพร้อมกันนะคะ มาตรงนี้มาเรื่องของพวกเราแบบชัดๆ ตรงๆ กันเลยดีกว่า พอหลังจากที่สาวๆ ได้รู้แล้วล่ะว่าตัวเองต้องใส่หน้ากากออกไปข้างนอก เชื่อเลยว่าต้องมีเพื่อนๆ หลายคนไม่แต่งหน้าเลยแหละ จะแต่งทำไมจะมีใครเห็น หรือไม่ก็เห็นตาก็แต่งแค่ตา พอนะจบ

ไม่ค่ะไม่จบ! ในทางบิวตี้เราไม่ยอมจบให้ เพราะยังมีคนที่เขารักชอบการดูแลความสวยให้เป๊ะตลอด ฉันยังต้องบำรุงดูแลผิวหน้า ทาครีม ทาครีมกันแดด ลงเมคอัพ นั่นไง! บอกแล้วว่ายังมีอยู่เยอะมากที่คิดว่าแม้จะอยู่ใต้หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ฉันจะไม่ยอมหยุดสวยโดยเด็ดขาด คุณทำได้ด้วยเทรนด์เมคอัพที่เน้นอวดผิวกระจ่างใส ผิวสุขภาพดี แต่งตานิดๆ กรีดอายไลเนอร์หน่อยๆ ดูแต่งไม่เยอะแต่ไม่ใช่ไม่แต่งเลยนะคะ

วิธีล้างหน้าให้สะอาดง่ายๆใน 4 ขั้น+1 บำรุง

1.ถอดคอนแทคเลนส์ หรือขนตาปลอมออกก่อน ก่อนจะเช็คเครื่องสำอาง เพราะรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางและระคายเคืองได้ง่ายมาก ไม่อย่างนั้นอาจจะตาช้ำแดง และเจ็บตาไปอีกหลายวันเลยค่ะ

2.เช็คเครื่องสำอางออกด้วย Makeup Remover คุณไม่ควรที่จะข้ามขั้นตอนนี้ไปเด็ดขาดเลย เพราะหากเราไม่ใช้ Makeup Remover และล้างหน้าด้วยโฟมหรือสบู่เพียงอย่างเดียวนั้น บอกเลยว่าไม่สะอาดแน่นอน เพราะบรรดาคราบเครื่องสำอางอาจจะยังตกค้างอยู่ในรูขุมขน หากสะสมไปเรื่อยๆ จะเป็นสาเหตุทำให้หน้าเป็นสิวและปัญหาผิวหน้าอื่นตามมาได้ เช่น ปัญหาริ้วรอย ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ

3.ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมสูตรอ่อนโยน นวดโฟมล้างหน้าบนผิวหน้าของเราอย่างเบามือ ไม่ควรถูไปถูมาแบบรุนแรงเพราะจะทำให้ผิวหน้าของเรานั้นเสียดสีกับมือของเรา และทำให้ระคายเคืองผิวได้ หลังจากนั้นก็ให้ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด

4.ไม่ลืมเช็คผิวบริเวณรอบดวงตา หลังล้างหน้าเสร็จแล้ว ให้เช็คบริเวณรอบดวงตาของสาวๆ อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีคราบมาสคาร่า คราบอินไลเนอร์ และอายไลเนอร์ยังติดอยู่ โดยให้ใช้สำลีสะอาดชุบ Makeup Remover และนำมาเช็ดบริเวณรอบดวงตาอย่างระมัดระวังและเบามือ

5. บำรุงด้วย Moisturizer หลังการล้างหน้าสะอาดแล้ว การทามอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิว นั่นเป็นเพราะหลังจากที่ใช้งานผิวหน้ามาตลอดทั้งวันก็ต้องมีได้พักบ้าง ดังนั้นเราควรที่จะให้ผิวได้มีเวลาพักแล้วฟื้นฟูตัวเอง แนะนำให้บำรุงหลังล้างหน้า ทั้งเช้าและเย็น พร้อมกันนี้ต้องไม่ลืมทาบำรุงรอบดวงตาด้วยนะคะ

 

ปัญหาสิวยิ่งใหญ่กว่าที่คิด 

สิวเป็นการอักเสบของผิวหนังซึ่งเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ อย่างผิวหนังมีการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป เกิดการอุดตันจากน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบริเวณรูขุมขน การติดเชื้อแบคทีเรีย และฮอร์โมนเอนโดรเจนทำงานมากผิดปกติ โดยสิวจะมีลักษณะและอาการที่ปรากฏแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท

วิธีรักษาสิวด้วยตัวเอง: การรักษาสิวด้วยตนเองทำได้โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงหรือควบคุมอาการของสิว ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ร่วมกับปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ ทำความสะอาดผิวหน้า และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ระคายเคืองควรล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้งด้วยสบู่อ่อนๆ และน้ำอุ่น

หากมีสิวเกิดขึ้นตามไรผม ก็ควรสระผมทุกวัน และควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้า ยาสมานแผล ผลิตภัณฑ์พอกหน้า เครื่องสำอางหรือครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม คอนซีลเลอร์ เป็นต้น

โดยผู้ที่มีสิวอาจเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดรูขุมขนอุดตันแทน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวได้

เป็นริ้วเป็นรอย

พูดถึงริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ที่เกิดจากอารมณ์ความรู้สึก แสงแดด และผิวขาดความชุ่มชื้น สำหรับพวกที่ชอบทำหน้าเครียดคิ้วขมวดหรือเลิกหน้าผากบ่อยๆ ก็จะเกิดร่องรอยย่นที่หัวคิ้วและหน้าผาก งานนี้ถ้าจะให้อินสุดๆ ก็ต้องพูดถึงรอยกดทับจากหน้ากากที่ใส่กันมาทั้งวัน แล้วยังต้องทุกวันอีก แนะนำว่าการใช้ครีมบำรุงผิวสามารถช่วยได้ ดูแลบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นตลอดเวลา เพราะถ้าผิวแห้งกร้านเมื่อไหร่ริ้วรอยพวกนี้ก็จะเกิดขึ้นง่ายและอยู่นานกว่าเดิม

อีกทั้งตัวเราเองก็ต้องหันมาปรับตัวปรับอากัปกิริยาร่วมด้วย ไม่ต้องจับกดหน้ากากให้บ่อยนัก เพราะน้ำหนักแรงนิ้วจะยิ่งไปทำให้ริ้วรอยเกิดขึ้นซ้ำๆ เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย หมั่นสร้างอารมณ์สดชื่นแจ่มใส หยุดทำหน้านิ่วคิ้วขมวด หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัด ดื่มน้ำให้ผิวและตัวคุณรู้สึกสดชื่น พักผ่อนให้เพียงพอ

ชีวิตนี้ไม่อยากเป็นฝ้า

ต้องหลีกเลี่ยงการเจอแดดแรงๆ ในช่วงสายถึงบ่าย เพราะรังสีในแสงแดดจะยิ่งทำให้ฝ้าและกระเข้มขึ้น แถมยังทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น และมะเร็งผิวหนัง ถึงแม้การใส่หน้ากากอาจจะช่วยบรรเทาเบาบางได้บ้างแต่คงน้อยมากๆ เราแนะนำให้พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดน่าจะดีที่สุด พร้อมทาครีมกันแดด ทาครีมบำรุง อย่าหยุดใช้

ความเครียด ตัวแม่แห่งการทำลายล้าง

เรื่องของอารมณ์กับเรื่องผิวล้วนมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ความเครียดทำให้เกิดผิวหนังอักเสบได้ ผมร่วงได้ สิวเห่อได้ แล้วที่นี้เราจะปรับจูนอารมณ์ตัวเองเพื่อที่จะไม่ให้เครียดได้อย่างไรบ้างนะเหรอ เช่น ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เล่นโยคะ เข้าวัดฟังธรรม ไปสปา มองโลกในแง่ดี ฯลฯ เพื่อที่ว่าพอได้สร้างความดีต่อใจให้ทั้งร่างกายและจิตใจขึ้นมาแล้ว ผลลัพธ์ต่อไปที่คุณจะได้รับคือสุขภาพผิวก็จะดีงามตามไปด้วย

การดูแลผิวที่สม่ำเสมอคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

ไม่ต้องคิดว่าจะต้องมีโอกาสอันดีอะไรถึงจะลุกขึ้นมาพลิกฟื้นดูแลผิวหน้าตัวเอง แต่อยากให้ทุกคนตั้งมั่นตั้งใจดูแลผิวดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ติดเป็นนิสัย ดูแลทุกวัน ไม่ลืม ไม่ทำลืม เพราะการดูแลตัวเองให้สวยดูดีอยู่ตลอดเวลานั้นก็มีแต่จะส่งผลดีต่อตัวเอง แล้วทำไมจะไม่ทำล่ะคะคุณ

อ่านเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ที่:

www.naturalandorganic.com/health-beauty/face-mask-safe/ 

www.naturalandorganic.com/feature/beauty/beauty-tips-for-covid-19/

http://www.naturalandorganic.com/feature/hand-sanitizer-harmful/