แม้โลกจะหมุนไวตามเทรนด์ที่ไปไกลถึงยุค 5G ซึ่งเรียกได้ว่าเพียงกระพริบตาทุกสิ่งที่ปรารถนาดูเหมือนจะปรากฎอยู่ตรงหน้าให้เลือกสรรสารพันเกินกว่าใจนึก แต่ในความรวดเร็วว่องไวเกินกว่าใจนั้นกลับยังมีผู้คนไม่น้อยที่กำลังแสวงหาการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืนด้วยความเรียบง่าย ปลอดภัย ไร้การปรุงแต่งใดๆ ให้มากที่สุด
กระแสการใช้ชีวิตตามวิถีออร์แกนิกจึงดูเหมือนจะค่อย ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะไม่รวดเร็วปรู๊ดปร๊าดตามสมัย แต่ดูเหมือนใครต่อใครไม่น้อยที่เริ่มหันหน้าเข้าหาการอยู่กับธรรมชาติแบบไม่ทำร้ายฉัน ไม่ทำร้ายโลก และไม่ยุ่งยากมากความ ทั้งยังตามสมัยแบบดูดีได้แม้ไม่ปรุงแต่ง จนกลายเป็นไลฟ์สไตล์สุดชิคแสนง่ายที่ใครก็ทำได้ ทั้งยังเป็นเรื่องดีถ้าได้ทำอีกด้วย
ส่วนวิถีออร์แกนิกคืออะไร การใช้ชีวิตแบบออร์แกนิกเป็นแบบไหน บรรทัดต่อไปมีคำตอบให้รู้กัน!
“ออร์แกนิก” (Organic) คำศัพท์ใหม่ที่ดูเหมือนจะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องของอาหาร ผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีให้เลือกชมเลือกใช้อยู่มากมาย โดยทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่อ้างอิงในเรื่องของการเข้าหาธรรมชาติ เน้นความปลอดภัย ห่างไกลสารเคมี เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคแบบเล็กๆ ในชีวิตประจำวันเพื่อการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
เหตุใดจึงต้องใช้ชีวิตตามวิถีออร์แกนิก เพราะความรวดเร็ว เร่งรีบของผู้คนในยุค 5G ที่ดูเหมือนจะมีตัวช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อผลลัพธ์อันรวดเร็วนั้นทำให้การใช้ชีวิตในปัจจุบันเต็มไปด้วยมลภาวะ สารเคมีต่าง ๆ มากมายที่เราได้รับอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทำให้มนุษย์กับธรรมชาติไกลห่างกันออกไปทุกขณะ จนเกิดความเจ็บป่วยทั้งทางกายและใจตามมา ผู้คนจึงเริ่มหาวิถีทางการอยู่อย่างมีสุขภาพที่ดี และออร์แกนิก คือคำตอบสุดท้ายของการเริ่มต้นการใช้ชีวิตใหม่ในการช่วยเยียวยาทั้งคุณภาพชีวิต และโลกที่กำลังส่งเสียงเรียกร้องให้มนุษย์หยุดทำร้ายบ้านของตัวเองเสียที
แม้การกลับคืนสู่ชีวิตแบบธรรมชาติจะเป็นวิถีอันแสนเรียบง่าย แต่ภายใต้การใช้ชีวิตอันรวดเร็วเน้นความสะดวกสบายความง่ายกลับกลายเป็นความยากขึ้นมาถนัดใจ เราจะหาอาหารปลอดสารพิษรับประทานได้อย่างไร
ยาสระผมที่เราใช้ เสื้อผ้าที่เราสวมใส่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้สิ่งเหล่านั้นผ่านกระบวนการทางเคมีได้จริงหรือ แล้วจะเริ่มต้นหันหน้าเข้าหาวิถีออร์แกนิกได้ทางใด แค่ไม่กี่วิธีง่ายๆ หากเริ่มต้นลงมือทำ และตั้งใจเปลี่ยนพฤติกรรม หนทางแห่งการใช้ชีวิตแบบใกล้ชิดธรรมชาติที่แสนจะปลอดภัยดูจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ “เปลี่ยนตัวเอง” อาจไม่ถึงกับต้องลุกขึ้นมาจับจอบจับเสียมขุดดินเพื่อปลูกผักปลอดสารพิษไว้รับประทานเอง หรือทำสบู่ ยาสระผมจากวัตถุดิบธรรมชาติไว้ใช้เอง (หากทำได้ยิ่งนับเป็นเรื่องดี) แค่รู้จักใส่ใจกับการเลือกซื้อทั้งของกินและของใช้ ด้วยการอ่านข้อมูล ดูที่มาที่ไป เลือกซื้อสินค้าที่ดีกับทั้งตัวเองและโลก
“เปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรม” ด้วยการลดการสร้างขยะ เลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบรักษ์โลกที่ไม่เป็นพิษและย่อยสลายง่าย ชวนคนรอบข้างให้เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และรักตัวเองด้วยการใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากสารพิษ แล้วมาใกล้ชิดกับการอยู่อย่างธรรมชาติ อาจเป็นวิถีที่ไม่สะดวกสบายนัก แต่การรักษ์โลกย่อมช่วยให้เราและโลกอยู่ด้วยกันต่อไปได้อย่างยืนยาว
“เปลี่ยนจากผู้ทำลายเป็นผู้สร้าง” พื้นที่หรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการนั้น เราไม่รู้เลยว่าเราอาจต้องแลกกับการทำลายธรรมชาติมากมาย การปลูกต้นไม้ ช่วยกันสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ช่วยกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ถูกรุกรานมาเนิ่นนาน คืออีกหนึ่งหนทางของการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากสีเขียวของต้นไม้จะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ดูดซับสารพิษ ฝุ่นผง และมลพิษทางอากาศ ทำให้เราหายใจกันอย่างสะอาด ทั้งยังต่อลมหายใจให้ทุกชีวิตให้ยืนยาวขึ้น
เปลี่ยน….เพื่อชีวิตใหม่ที่ไฉไลกว่า แล้วจะรู้ว่าออร์แกนิก คือวิถีที่ดีกว่าสำหรับทุกคน